ข้อดีและข้อเสียของการกินคีโตหรือ Ketogenic Diet
ในการลดน้ำหนักด้วยการกินอาหารคีโตหรือ Ketogenic Diet นั้น มีหลักการสำคัญคือ การลดปริมาณของคาร์โบไฮเดรต ที่ให้แป้งและน้ำตาลให้น้อยลง กว่า 30 กรัม ต่อ 1 วัน รวมไปถึงการเพิ่มปริมาณของอาหารในกลุ่มไขมันและโปรตีนให้มากขึ้น เพื่อให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะที่เรียกว่า Ketosis หรือก็คือการดึงไขมันไปใช้เป็นพลังงานทดแทนน้ำตาลกลูโคสที่ได้รับน้อยลงนั่นเอง โดยรูปแบบการกินอาหารในวิธีนี้สามารถใช้ได้ผลดีเพื่อการลดน้ำหนัก รวมไปถึงเหมาะยังสำหรับผู้ที่ป่วยในโรคต่าง เช่น เบาหวาน หัวใจ อัลไซเมอร์ ลมชัก และน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน อีกด้วย
อย่างไรก็ตามการกินอาหาร keto หรือ Ketogenic Diet นั้น ก็ไม่ได้มีแต่ข้อดีเพียงอย่างเดียว แต่ทว่าในส่วนของข้อเสียที่ร่างกายจะต้องได้จากการกินคีโตเอง ก็มีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยในวันนี้เราจะพามาศึกษาข้อดีและข้อเสียของการกินอาหารคีโตหรือ Ketogenic Diet ที่ร่างกายจะได้รับและต้องประสบพบเจอกัน
โดยในส่วนของข้อดีที่ร่างกายจะได้รับจากการกินอาหารคีโตหรือ Ketogenic Diet นั้น มีดังนี้
- ใช้เป็นแนวทางในการลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานอีกทั้งยังมีการผลิตสาร คีโตน ขึ้นมาในกระแสเลือดเพื่อให้ร่างกายรู้สึกหิวและต้องการอาหารที่น้อยลง
- เพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันภายในร่างกายได้เป็นอย่างดีเนื่องจากมีการดึงไขมันสะสมที่มีอยู่ในร่างกายมาใช้เป็นพลังงานทดแทนน้ำตาลกลูโคสที่เคยได้จากคาร์โบไฮเดรตนั่นเอง
- สามารถใช้เป็นแนวทางการรับประทานอาหารเพื่อช่วยในเรื่องของสุขภาพของผู้ป่วยในหลายโรคเช่นโรคลมชัก, โรคความดันโลหิตสูง, โรคหัวใจโรคเบาหวาน, โรคอัลไซเมอร์ และ โรคอ้วน เป็นต้น
ในส่วนของข้อเสียที่ร่างกายจะได้รับจากการกินอาหารคีโตหรือ Ketogenic Diet นั้น มีดังต่อไปนี้
- เพราะเป็นแนวทางการกินที่ไม่มุ่งเน้น ในส่วนของผักและผลไม้จึงทำให้ร่างกายเกิดการขาดวิตามิน รวมไปถึงไฟเบอร์ที่ จนทำให้เข้าสู่สภาวะการขาดสารอาหารและมีความผิดปกติกับระบบขับถ่ายได้
- ทำให้ร่างกายเกิดความรู้สึกเหนื่อยล้ามากกว่าปกตินอกจากนี้ยังอาจมีอาการปวดศีรษะและท้องไส้ปั่นป่วน ร่วมเข้ามาด้วย ซึ่งอาการต่างๆเหล่านี้เรียกว่า ไข้คีโต หรือ Keto flu นั้นเอง
- หากกินอาหารแบบคีโตหรือ ketogenic Diet เป็นระยะเวลายาวนานติดต่อกัน ก็อาจจะทำให้ร่างกายเกิดเป็นนิ่วขึ้นได้ ภายในบริเวณไต รวมไปถึงตับอาจจะทำงานได้ผิดปกติเนื่องจากสภาวะการเกาะพอกของไขมันนอกจากนี้ ยังอาจจะทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย ตับจากการพอกเกาะไขมัน รวมไปถึงมีปริมาณของไขมันในร่างกาย เพิ่มขึ้นเยอะ
- เกิดสภาวะการรับประทานอาหารที่ผิดปกติเนื่องจากความเคยชินของร่างกายหลังการกินอาหารแบบ
คีโต หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า Eating disorder นั่นเอง - อาจจะมีกลิ่นตัวและกลิ่นปากที่รุนแรงกว่าปกติ
- เสี่ยงต่อการเกิดสภาวะโยโย่เอฟเฟคหรือน้ำหนักกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
และทั้งหมดนี้คือข้อดีและข้อเสียของการกินอาหาร keto หรือ ketogenic Diet ที่ผู้สนใจจำเป็นจะต้องรู้เอาไว้เป็นเบื้องต้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้สามารถกินอาหารแบบคีโตได้อย่างประสบความสำเร็จและปลอดภัย อีกทั้งยังสามารถรับมือกับความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นกับร่างกายในระหว่างการกินคีโต รวมไปถึงสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อเกิดความผิดปกติได้อย่างทันท่วงทีและมีสติจนไม่เป็นอันตรายในภายหลัง อีกด้วย