คีโตเจนิกคืออะไร

 

 

            นอกจากการออกกำลังกายแล้ว ยังมีวิธีการลดน้ำหนักอีกหลายอย่างที่มีการทดลองแล้วพบว่าผลลัพธ์มีประสิทธิภาพได้เช่นกัน หนึ่งในหลาย  ๆ วิธีการลดน้ำหนักก็คือคีโตเจนิก วิธีที่กำลังเป็นกระแสมาแรง เพราะรับประทานได้ง่าย ไม่จำเจอย่างการรับประทานอาหารคลีน ด้วยความแตกต่างของกลไลการตอบสนองของร่างกายที่คีโตเจนิกเป็นวิธีที่ง่ายมากกว่า

            คีโตเจนิกคืออะไร เป็นคำถามที่ควรศึกษาก่อนการเริ่มใช้วิธีนี้เป็นการลดน้ำหนัก หลายคนอาจจะคุ้นหูกับคำว่า “กินคีโต” “ทานคีโต” ซึ่งก็ย่อมาจากคำว่าคีโตเจนิก เป็นวิธีการลดน้ำหนักจากการรับประทานอาหาร ด้วยการรับประทานไขมันเพื่อล้างไขมัน อาจจะดูแปลกและเป็นไปไม่ได้กับการใช้ไขมันในการลดน้ำหนัก แต่คีโตเจนิกเป็นการลดน้ำหนักที่ผ่านการวิจัย ว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีต่อรูปร่างและน้ำหนักของผู้ที่เริ่มทานอาหารคีโตอย่างน้อยต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วัน

 

            สำหรับการทานอาหารคีโต ที่กล่าวว่าเป็นการรับประทานไขมันล้างไขมันก็จริง แต่ไขมันที่รับประทานจะต้องเป็นไขมันดี ประเภท HDL (high density lipoprotein) เป็นไขมันที่มีความหนาแน่นสูง ซึ่งส่งผลต่อหลอดเลือดเลือดแดง ที่หากขาดไขมัน HDL อาจจะส่งผลต่อการเกิดโรคทางหลอดเลือดและหัวใจได้ ดังนั้นการทานอาหารคีโตจึงจะเน้นการรับประทานอาหารไขมันสูงในประเภท HDL  อาทิเช่น น้ำมันหมู น้ำมันมะพร้าว แมคคาดีเมีย เป็นต้น และการทานอาหารคีโตนอกจากการรับประทานไขมันที่จำเป็นแล้ว การลกน้ำหนักด้วยวิธีนี้ จะต้องงดการรับประทานแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล เพราะแป้งเมื่อเข้าสู่ร่างกายและก็จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลเช่นกัน 

 

            ในช่วงแรกของการทานอาหารคีโตอาจจะส่งผลให้เกิดอาการมึนงง เวียนหัวเนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดจะลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเป็นหลักการที่ส่งผลให้ระดับอินซูลินต่ำลง และเกิดสารที่เรียกว่า “คีโตน” จะเป็นตัวช่วยในการสลายไขมัน อีกทั้งเมื่ออินซูลินต่ำ ก็จะมีอาหารหิวน้อยลงในบางรายอาจจะมีการเบื่ออาหารร่วมด้วย แต่การทานอาหารคีโตอย่างต่อเนื่องเกิน 1 สัปดาห์ ร่างกายจะรับรู้และปรับสภาพตามการรับประทานอาหารและเริ่มชินกับกลไลการทำงานเมื่อร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตต่ำมาก

 

คีโตเจนิกคืออะไร

 

            ผลดีของลดน้ำหนักแบบคีโตเจนิกคือเป็นการลดน้ำหนักที่ได้ผลรวดเร็ว ไม่เครียดมากเท่ากับการประทานอาหารคลีน และกระตุ้นการทำงานของระบบเผาพลาญได้ดี แต่ก็จะมีผลเสียในระยะยาวหากรับประทานอาหารคีโตเกิน 6 เดือน น้ำหนักอาจจะหยุดนิ่งได้ และคีโตเจนิกไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ปัญหาด้านไขมันสูงหรือคลอเลสตอลเรลสูง เพราะต้องเป็นการทานอาหารแบบเน้นไขมัน อีกทั้งผู้ที่ปัญหาด้านระบบการเผาพลาญก็ไม่ควรใช้วิธีนี้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามวิธีการลดน้ำหนักแบบคีโตผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของบุคคลด้วย

           

 

คีโตเจนิกคืออะไร