สัดส่วนการทานคีโต
ต้องการบอกว่าการรับประทานนคีโตกลายเป็นการควบคุมน้ำหนักทีได้รับความนิยมมาก เพราะสามารถรับประมานเนื้อสัตว์ ไขมัน ปรุงรสชาติได้ ทำให้การรับประทานอาหารเพื่อลดน้ำหนักไม่น่าเบื่ออีกต่อไป แต่จริง ๆ แล้วการรับประทานอาหารคีโตก็ต้องมีสัดส่วนการเลือกรับประทานที่พอดีให้เหมาะสมกับร่างกายและการเผาพลาญด้วยเช่นกัน
ทำไมคนถึงเลือกคีโตเจนิก
คีโตเจนิกเป็นการรับประทานอาหารเพื่อลดน้ำหนักที่ไม่ซ้ำซาก มีเมนูทางเลือกมากมาย มีรสชาติที่เข้มข้นได้ตามต้องการ อาหารจะทานกว่าอาหารคลีน เพราะคีโตเจนิกเป็นการลดน้ำหนักที่เน้นไขมันและโปรตีน ทำให้รับประทานเมนูต่าง ๆ ได้ตามต้องการเพียงแค่เปลี่ยนการปรุงให้มีการเจือปนของน้ำตาล ใช้เป็นสารทดแทนความหวานและเครื่องปรุงรสสำหรับคีโตและเลือกวัตถุดิบที่ไม่มีคาร์โบไฮเดรตเท่านั้น ก็เป็นมื้ออาหารเพื่อสุขภาพได้แล้ว ผู้คนส่วนมากจึงเลือกใช้วิธีในการลดน้ำหนักและลดไขมันในร่างกาย
สักส่วนการทานคีโต
อย่างที่กล่าวไปว่าการรับประทานอาหารคีโตไม่เพียงแค่งดแป้ง งดน้ำตาลเท่านั้น แต่การเน้นไขมันและโปรตีนก็ต้องไม่มากเกินไปสำหรับร่างกายและระบบการเผาพลาญ จึงต้องเข้าในสัดส่วนของการรับประทานคีโตเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในการดูแลสุขภาพ
- ปริมาณไขมันดีที่รับได้ต่อวันต้องไม่เกิน 75% ของอาหารทั้งหมดที่รับต่อวันเพราะอาจจะทำให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้ได้ไม่หมดก็อาจจะเกินการตกค้างในร่างกายได้ อาทิเช่น เนย นม ชีส น้ำมันมะกอก เป็นต้น
- โปรตีนที่ทานได้ไม่เกิน 20% ที่จะเป็นส่วนช่วยในการเสริมสร้างร่างกายได้ เป็นอาหารประเภทเนื้อสัตว์แบบเนื้อแดง ปลาแซลม่อนและถั่วบางชนิด
- 5% ที่เหลือเป็นประเภทของผักใบเขียว ผลไม้ตะกูลเบอร์ที่น้ำตาลต่ำ และเป็นสัดส่วนที่ร่างกายระหว่างการรับประทานคีโตสามารถรับคาร์โบไฮเดรตที่อาจจะอยู่ในอาหารประเภทผักได้บ้าง แต่ไม่สามารถทานคาร์โบไฮเดรตจากข้าว แป้ง ขนมปัง หรือรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลได้
การแบ่งสัดส่วนดังกล่าวเป็นการรับประทานคีโตที่ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายด้วยจะได้ผลที่รวดเร็วและสมบูรณ์ ร่างกายกระชับสัดส่วนได้ดี เผาพลาญและดึงไขมันสะสมมาใช้ได้สมบูรณ์แบบเลยทีเดียว แต่ในสำหรับบางรายที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วก็จะหลีกเลี่ยงหรืองดอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตไปเลย
นับแคลลอเรี่จำเป็นหรือไม่
สำหรับการรับประทานอาหารแบบคีโตเจนิกหลายคนคงสงสัยว่ายังต้องนับจำนวนแคลลอรี่หรือไม่ เพราะแคลลอรี่ที่มากเกินไปอาจจะส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ซึ่งสำหรับการรับประทานคีโตเจนิกไม่จำเป็นต้องนับแคลลอรี่ก็ได้แต่ต้องรับประทานอาหารตามสัดส่วนของคีโตเจนิกและเลือกรับประทานอาหารให้พอดีต่อร่างกาย แม้ไม่นับแคลลอรี่แต่ก็ไม่ควรทานในปริมาณที่มากเกินไปอาจจะส่งผลการเผาพลาญหรือร่างกายดึงไขมันทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ