อาหารคีโต (Ketogenic ) คืออะไร

 

 

                                  “คีโตเจนิค”เป็นคำที่ใช้เรียกอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ ให้ร่างกายรับแคลอรีมากขึ้นจากโปรตีน และไขมัน ลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยง่ายให้ได้มากที่สุด เช่น ข้าว น้ำตาล ขนมอบ และขนมปังขาวหากร่างกายรับคาร์โบไฮเดรตน้อยกว่า 50 กรัมต่อวัน ร่างกายจะนำน้ำตาลในเลือดไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว โดยปกติจะใช้เวลา 3 ถึง 4 วัน จากนั้นจึงเริ่มสลายโปรตีน และไขมันเพื่อเป็นพลังงาน ทำให้น้ำหนักลดลงได้ ที่เรียกว่าคีโตซีส แต่อาหารคีโต เป็นอาหารที่ควรทานในระยะสั้นที่เน้นการลดน้ำหนัก มากกว่าการที่จะได้ประโยชน์ด้านอื่น ๆ

 

อาหารคีโตเจ อาจช่วยให้ลดน้ำหนักในช่วง 3 ถึง 6 เดือนแรก เป็นเพราะว่าการเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงานต้องใช้แคลอรีมากกว่าการเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตเป็นพลังงาน

อาหารคีโตอาจยังช่วยนักกีฬาที่มีความอดทน เช่น นักวิ่ง และนักปั่นจักรยาน เมื่อเวลาผ่านไป มันจะช่วยให้อัตราส่วนระหว่างกล้ามเนื้อกับไขมันของคุณมีความสมดุล และเพิ่มปริมาณออกซิเจนทำให้ออกกำลังกายได้หนักขึ้น

สำหรับคนที่ใช้อาหารคีโตในการลดน้ำหนัก แต่ก็สามารถช่วยรักษาอาการป่วยอย่างเช่นลมบ้าหมู โรคหัวใจ โรคทางสมองบางชนิด และแม้กระทั่งสิว แต่หากจะทานเพื่อรักษาโรคควรต้องปรึกษาแพทย์ก่อน

 

อาการที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตอนทานคีโต

การที่เราลดแป้ง และน้ำตาลลงร่างกายจำเป็นต้องไปแสวงหาแหล่งพลังงานอื่นมาใช้งาน นั่นก็คือโปรตีน และไขมันนั่นเอง ในช่วงแรก ๆ ที่ทาน (อาจจะหลายสัปดาห์) ร่างกายอาจจะมีอาการอ่อนล้า เพลีย เหนื่อยง่าย มีกลิ่นปาก เหงื่อ และปัสสาวะรวมไปถึงลมหายใจจะมีกลิ่นคล้าย ๆ ผลไม้ แต่อดทนสักหน่อยเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อร่างกายปรับเข้ากับพฤติกรรมการกินของเราได้แล้ว อาการเหล่านี้ก็จะหายไปเอง และร่างกายยังทำหน้าที่เผาผลาญไขมันดียิ่งขึ้นไปอีกด้วย

 

อาหารคีโต (Ketogenic ) คืออะไร

 

สิ่งที่ควรระวังหากินอาหารคีโต

เมื่อร่างกายเผาผลาญไขมันสะสม มันอาจส่งผลทำให้ไตงานหนักขึ้น และการเริ่มรับประทานอาหารที่เป็นคีโตเจนิค หรือกลับไปรับประทานอาหารตามปกติ อาจเป็นเรื่องยากหากคุณอ้วน มีน้ำหนักมาก รวมไปถึงปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่คุณมีแนวโน้มว่าจะเป็น เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ หรือความดันโลหิตสูง หากคุณมีอาการเหล่านี้ ให้ค่อย ๆ เริ่มเปลี่ยนอาหารอย่างช้า ๆ และต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์เท่านั้น

อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ใช้มีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว ควรจะมีสัดส่วนในการทานแต่ละวันให้มีความเหมาะสม ให้ร่างกายได้รับสารอาหารให้ครบถ้วนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากใครไม่สามารถที่จะจัดสรรอาหารได้ ให้หาวิตามินมาเสริมในส่วนที่ขาดหายไป ก็จะทำให้ลดความเสี่ยงหลาย ๆ อย่างที่จะเกิดขึ้นได้เช่นกัน

 

 

 

อาหารคีโต (Ketogenic ) คืออะไร