แซนวิชรากบัว
รากบัวสมุนไพรไทยที่อาจจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก แต่เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์หลากหลายต่อร่างกายมาก ในส่วนของรากบัวเป็นส่วนที่อยู่ใต้ดิน ที่ดูดซึมและกักเก็บสารอาหาร ทำให้รากบัวเป็นส่วนที่สารอาหารที่ดีจำนวนมาก โดยมีลักษณะเป็นท่อนยาวแต่เมื่อนำมารับประทานจะหั่นเป็นแว่นบาง ๆ เพื่อให้ปรุงอาหารได้ง่ายขึ้น
รากบัวก็นำไปประกอบอาหารได้หลายประเภท หนึ่งในนั้นคือการนำมาทำเป็นแซนวิช ที่สามารถทานเป็นมื้อหลักก็ได้ หรือเป็นของว่าง เป็นอาหารคลีนก็ได้ เนื้อสัมผัสของรากบัวจะมีความมันที่ทำให้รับประทานได้ง่าย จะคล้ายกับมันหวานและมีสารอาหารที่สำคัญคือใยอาหารสูง ช่วยในระบบการทำงานของลำไส้ ช่วยในการขับถ่ายได้ นอกจากนี้รากบัวเป็นสมุนไพรฤทธิ์เย็นที่สามารถเป็นยาได้ คือการลดไข้ จากฤทธิ์เย็นของตัวรากบัวเอง และนอกจากนี้ยังช่วยแก้ร้อนใน ช่วยบรรเทาอาการกระหายน้ำ และส่งผลในการขับปัสสาวะเพื่อให้ลดอาการขัดเบาได้ นับว่าเป็นสมุนไพรที่ให้ประโยชน์ได้มากมายทีเดียว
ส่วนประกอบแซนวิชรากบัว
- รากบัว 200 กรัม
- หมูสับ 100 กรัม
- ข้าวโพด 50 กรัม
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
- ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีการปรุงแซนวิชรากบัว
- นำข้าวโพดที่แกะแล้วล้างน้ำให้สะอาดและต้มในเปล่าให้สุกประมาณ 20 – 30 นาที ต้มแค่พอสุกไม่ควรให้เละเกินไป ตักขึ้นพักไว้ให้เย็นลง
- เตรียมอ่างผสม ใส่หมูสับลงไป หมักด้วยเกลือป่น พริกไทยป่น และซีอิ้วขาว คลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วใสข้าวโพดต้มสุกตามลงไป คลุกเคล้าอีกครั้งอย่างเบามือ
- เตรียมรากบัวสไลด์ นำมาล้างนำให้สะอาด เลือกใช้รากบัวแบบที่ยังไม่เชื่อมไม่ผ่านการปรุงแต่ง เพื่อให้รสชาติของแซนวิชไม่เข้มเกินไป
- ทำการห่อแซนวิชด้วยรากบัว โดยนำรากบัว 1 ชิ้นแล้วทาด้วยหมูสับที่หมักไว้ตามต้องการ แล้วใช้รากบัววางปิดอีกชิ้น ในลักษณะของแซนวิช ทำไปเรื่อย ๆ จนหมูสับหมดจากนั้นเตรียมการย่าง
- ตั้งกระทะให้ร้อน เติมน้ำมันมะกอก การทำให้สุกจะใช้เป็นการย่างหรือการกริลล์บนกระทะ เพื่อลดประมาณน้ำมัน และเลือกใช้นำมันมะกอกที่เป็นส่วนผสมที่ดีต่อร่างกาย เมื่อน้ำร้อนได้ที่ ก็วางแซนวิชที่เตรียมไว้ลงไป ใช้ไฟกลางในการย่างเพื่อให้หมูสับสุก ประมาณ 5 นาทีก็ทำการพลิกด้านเพื่อป้องกันรากบัวไหม้ เมื่อหมูสับสุกเต็มที่ก็ตักขึ้นซับน้ำมันและเสิร์ฟได้ทันที
แซนวิชรากบัว แนะนำให้รับประทานขณะยังร้อน จะได้กลิ่นหอมของรากบัวย่างชัดเจน และเมนูนี้เป็นอาหารคลีนที่ไม่ต้องเติมน้ำตาลก็จะได้ความหวานและมันจากเนื้อของรากบัว และยังได้ความหวานจากข้าวโพดอีกด้วย ทำให้รับประทานได้เพลินเพลินคลายความหิวได้ดี